วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

โขน สมบัติของแผ่นดิน

โขน 

ความหมายของคำว่าโขน

โขน คือ นาฏกรรมขั้นสูงอย่างหนึ่งของไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณและได้วิวัฒนการมาจนถึงปัจจุบัน ความหายของคำว่าโขนมีไว้ดังนี้

- การเล่นอย่างหนึ่งคล้ายละคร แต่สวมหัวจำลองต่างๆที่เรียกว่าหัวโขนอย่างหนึ่ง

เรียกไม้ที่ต่อเสริมหัวเรือให้งอนเชิดขึ้นไปเรียกว่า โขนเรืออย่างหนึ่ง
เรือชนิดหนึ่งที่มีโขนเรียกว่า เรือโขนอย่างหนึ่ง

จากความหมายข้างต้นจะเห็นได้ว่า โขนนั้นมีความหมายหลายอย่างแต่ความหมายที่สอดคล้องคำว่าโขนเป็นนาฏกรรมขั้นสูงอย่างหนึ่งของไทยก็คือการละเล่นอย่างหนึ่งคล้ายละครแต่สวมหัวจำลองต่างๆ





ประเภทวิวัฒนาการของโขน

จากการค้นคว้าของธนิต อยู่โพธิ์ทำให้เราได้ทราบถึงวิวัฒนาการของโขน โดยแบ่งเป็นประเภทในยุคหลังได้ดังนี้

1.โขนกลางแปลง  โขนที่เกิดขึ้นในยุคแรก เล่นกันกลางสนามเหมือนชักนาคดึกดำบรรพ์ กล่าวคือ แสดงบนพื้นดินกลางสนาม ไม่ปลูกโรงเล่น นิยมแสดงแต่ตอนยกทัพมารบกันระหว่างฝ่ายพลับพลากับฝ่ายลงกา 

2.โขนโรงนอกหรือโขนนั่งราว เป็นโขนที่จัดแสดงบนโรงไม่มีเตียงสำหรับตัวนายโรงนั่ง มีราวพาดตามส่วนยาวของโรง ตรงหน้าฉากออกมามีช่องทางให้ผู้แสดงเดินได้รอบราว ตัวโรงมักมีหลังคา เมื่อตัวโขนแสดงบทบาทของตนไปแลเวก็ไปนั่งประจำที่บนราวสมมุติเป็นเตียงหรือที่นั่งประจำตำแหน่ง ไม่มีขับร้อง มีแต่เสียงพากท์และเจรจา การบรรเลงหน้าพาทย์ต้องใช้วงปี่พาทย์ถึง 2 วง

3.โขนหน้าจอ คือ โขนที่เล่นตรงหน้าจอใหญ่ สือเนื่องมาจากการเล่นหนังใหญ่แต่เดิม ลักษณะจอหนังเมื่อนำมาใช้แสดงโขน ก็มีการพัฒนาโดยนิยมทเป็นจอแขวะ ตือ เจาะทั้งสองข้างจอทำเป็นช่องประตูเข้าออก วาดรูปเป็น้มประตูด้านขา ของผู้ดู วาดเป็นรูปปราสาทราชวังสมมุติเป็นกรุงมนิลา ด้านซ้ายวาดรูปเป็นค่ายพลับพลาของพระราม ด้านบนของจอวาดเป็นเมขลารามสูรและพระอาทิตย์พระจันทร์

4.โขนโรงใน คอโขนที่ได้รับการปรับปรุงผสมผสานกับการแสดงละครในอาจสืบเนื่องมาจากการคลุกเคล้าปะปนกันของศิลปะการแสดงหน้าจอใหญ่ การแสดงออกมีทั้งการเต้น บทพากท์ บทเจรจา ตามแบบโขน และมีเพลงขับร้อง

5.โขนฉาก ศิลปะการแสดงหรือมหรสพต่างๆของไทย ซึ่งรวมแล้วโขนตั้งแต่ดั้งเดิมด้วยนั้นจะไม่มีการสร้างฉากประกอบเรื่อง การแสดงจะดำเนินเรื่องติดต่อกันไป โดยผู้ดูต้องจินตนาการภาพเอาเอง การจัดฉากที่ได้มาจากตะวันตก โขนฉากจึงเกิดขึ้นเมื่อราวสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีการคิดสร้างฉากประกอบการแสดงโขนบนเวทีขึ้นคล้ายกับละครดึกดำบรรพ์








ตัวละครในการแสดงโขน

ยักษ์  จะต้องมีลักษณะสูง สงเหลี่ยมตลอดการทรงตัวดูแข็งแรงบึกบึน ลีลาสง่า ซึ่งต้องได้รับการฝึกมาอย่างดี

ตัวนาง  ตัวละครที่เป็นนางในโขนเรื่องรามเกียริต์ก็มีมากเช่นกัน มีทั้งประยุกค์ ประเภทมนุษย์ ยักษ์ ปลา นาค แต่ละตัวละครจะบอกชาติกำเนิดโดยการสวมศีรษะและหางเป็นสัญลักษณ์

นางกษัตริย์และนางตลาด  บุคลิกของตัวนางในโขนและละครรำนั้นคือการแบ่งแยกประเภทตามบุคลิก ของตัวนางสองประเภทคือ นางกษัตริย์และนางตลาด นางกษัตริย์คือตัวนางเอก และนางตลาดนั้นมีท่าทางกระชับกระเฉงว่องไว นางตลาดจะมีบทบาทที่ต้องฝึกฝนและเชี่ยวชาญกว่านางกษัตริย์

ตัวพระ  ตัวพระในโขนมีข้อยกเว้นคือปัจจุบันผู้แสดงที่เป็นมนุษย์ทั้งผู้หญิงและผู้ชายและเทวดา ซึ่งได้แก่พระราม พระลักษณ์ พระอิศวร พระนาราย พระพรหม และพงเผ่าของพระราม ซึ่งมีพระพศและพระสัตรุตไม่ต้องสวมน่ากากหรือโขน นิยมใช้ชฏาแทน

พระใหญ่ พระน้อง  ในการแสดงละครหรือการแสดงโขนจะต้องมีตัวเอกก 2 ตัวบทที่สำคัญพอๆกันจึงต้องแบ่งบทเป็นพระ ใหญ่และพระน้อง

ตัวลิง  ทหารฝ่ายพระรามเป็นลิงทั้งหมด ยกเว้นพิเพกซึ่งเป็นน้อง ของ ทศกัณฐ์ซึ่งชาติกำเนิดเป็นยักษ์ แต่ มาร่วมมือกับพระราม 

ลีลาเต้นของลิงมีทั้งกระโดดโลดเต้น ตีลังกา 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น