โขน
ความหมายของคำว่าโขน
โขน
คือ
นาฏกรรมขั้นสูงอย่างหนึ่งของไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณและได้วิวัฒนการมาจนถึงปัจจุบัน
ความหายของคำว่าโขนมีไว้ดังนี้
- การเล่นอย่างหนึ่งคล้ายละคร
แต่สวมหัวจำลองต่างๆที่เรียกว่าหัวโขนอย่างหนึ่ง
เรียกไม้ที่ต่อเสริมหัวเรือให้งอนเชิดขึ้นไปเรียกว่า
โขนเรืออย่างหนึ่ง
เรือชนิดหนึ่งที่มีโขนเรียกว่า
เรือโขนอย่างหนึ่ง
จากความหมายข้างต้นจะเห็นได้ว่า โขนนั้นมีความหมายหลายอย่างแต่ความหมายที่สอดคล้องคำว่าโขนเป็นนาฏกรรมขั้นสูงอย่างหนึ่งของไทยก็คือการละเล่นอย่างหนึ่งคล้ายละครแต่สวมหัวจำลองต่างๆ
ประเภทวิวัฒนาการของโขน
จากการค้นคว้าของธนิต
อยู่โพธิ์ทำให้เราได้ทราบถึงวิวัฒนาการของโขน โดยแบ่งเป็นประเภทในยุคหลังได้ดังนี้
1.โขนกลางแปลง โขนที่เกิดขึ้นในยุคแรก
เล่นกันกลางสนามเหมือนชักนาคดึกดำบรรพ์ กล่าวคือ แสดงบนพื้นดินกลางสนาม
ไม่ปลูกโรงเล่น นิยมแสดงแต่ตอนยกทัพมารบกันระหว่างฝ่ายพลับพลากับฝ่ายลงกา
2.โขนโรงนอกหรือโขนนั่งราว
เป็นโขนที่จัดแสดงบนโรงไม่มีเตียงสำหรับตัวนายโรงนั่ง มีราวพาดตามส่วนยาวของโรง
ตรงหน้าฉากออกมามีช่องทางให้ผู้แสดงเดินได้รอบราว ตัวโรงมักมีหลังคา
เมื่อตัวโขนแสดงบทบาทของตนไปแลเวก็ไปนั่งประจำที่บนราวสมมุติเป็นเตียงหรือที่นั่งประจำตำแหน่ง
ไม่มีขับร้อง มีแต่เสียงพากท์และเจรจา การบรรเลงหน้าพาทย์ต้องใช้วงปี่พาทย์ถึง 2 วง
3.โขนหน้าจอ คือ
โขนที่เล่นตรงหน้าจอใหญ่ สือเนื่องมาจากการเล่นหนังใหญ่แต่เดิม
ลักษณะจอหนังเมื่อนำมาใช้แสดงโขน ก็มีการพัฒนาโดยนิยมทเป็นจอแขวะ ตือ
เจาะทั้งสองข้างจอทำเป็นช่องประตูเข้าออก วาดรูปเป็น้มประตูด้านขา ของผู้ดู
วาดเป็นรูปปราสาทราชวังสมมุติเป็นกรุงมนิลา ด้านซ้ายวาดรูปเป็นค่ายพลับพลาของพระราม
ด้านบนของจอวาดเป็นเมขลารามสูรและพระอาทิตย์พระจันทร์
4.โขนโรงใน
คอโขนที่ได้รับการปรับปรุงผสมผสานกับการแสดงละครในอาจสืบเนื่องมาจากการคลุกเคล้าปะปนกันของศิลปะการแสดงหน้าจอใหญ่
การแสดงออกมีทั้งการเต้น บทพากท์ บทเจรจา ตามแบบโขน และมีเพลงขับร้อง
5.โขนฉาก
ศิลปะการแสดงหรือมหรสพต่างๆของไทย
ซึ่งรวมแล้วโขนตั้งแต่ดั้งเดิมด้วยนั้นจะไม่มีการสร้างฉากประกอบเรื่อง
การแสดงจะดำเนินเรื่องติดต่อกันไป โดยผู้ดูต้องจินตนาการภาพเอาเอง
การจัดฉากที่ได้มาจากตะวันตก โขนฉากจึงเกิดขึ้นเมื่อราวสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีการคิดสร้างฉากประกอบการแสดงโขนบนเวทีขึ้นคล้ายกับละครดึกดำบรรพ์
ตัวละครในการแสดงโขน
ยักษ์ จะต้องมีลักษณะสูง
สงเหลี่ยมตลอดการทรงตัวดูแข็งแรงบึกบึน ลีลาสง่า ซึ่งต้องได้รับการฝึกมาอย่างดี
ตัวนาง ตัวละครที่เป็นนางในโขนเรื่องรามเกียริต์ก็มีมากเช่นกัน
มีทั้งประยุกค์ ประเภทมนุษย์ ยักษ์ ปลา นาค
แต่ละตัวละครจะบอกชาติกำเนิดโดยการสวมศีรษะและหางเป็นสัญลักษณ์
นางกษัตริย์และนางตลาด
บุคลิกของตัวนางในโขนและละครรำนั้นคือการแบ่งแยกประเภทตามบุคลิก ของตัวนางสองประเภทคือ
นางกษัตริย์และนางตลาด นางกษัตริย์คือตัวนางเอก
และนางตลาดนั้นมีท่าทางกระชับกระเฉงว่องไว
นางตลาดจะมีบทบาทที่ต้องฝึกฝนและเชี่ยวชาญกว่านางกษัตริย์
ตัวพระ ตัวพระในโขนมีข้อยกเว้นคือปัจจุบันผู้แสดงที่เป็นมนุษย์ทั้งผู้หญิงและผู้ชายและเทวดา
ซึ่งได้แก่พระราม พระลักษณ์ พระอิศวร พระนาราย พระพรหม และพงเผ่าของพระราม
ซึ่งมีพระพศและพระสัตรุตไม่ต้องสวมน่ากากหรือโขน นิยมใช้ชฏาแทน
พระใหญ่
พระน้อง ในการแสดงละครหรือการแสดงโขนจะต้องมีตัวเอกก
2 ตัวบทที่สำคัญพอๆกันจึงต้องแบ่งบทเป็นพระ
ใหญ่และพระน้อง
ตัวลิง ทหารฝ่ายพระรามเป็นลิงทั้งหมด
ยกเว้นพิเพกซึ่งเป็นน้อง ของ ทศกัณฐ์ซึ่งชาติกำเนิดเป็นยักษ์ แต่
มาร่วมมือกับพระราม
ลีลาเต้นของลิงมีทั้งกระโดดโลดเต้น
ตีลังกา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น